New Page 3

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนผสม
แป้งสาลีบัวแดง 180 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 190 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 170 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 0)
กลิ่นวานิลลาหรือกลิ่นกล้วยหอม 1 ช้อนชา
กล้วยหอมสุกงอมบดละเอียด 200 กรัม
นมสด (จืด) 60 กรัม
โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) 40 กรัม

วิธีทำ

  1. อุ่นเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส  ไฟบนและล่าง  ไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน
  2. างกระทงกระดาษหรือกระทงอลูมินัมฟอล์ยลงในพิมพ์อลูมิเนียมที่ขนาดเหมาะสมกัน  แล้วเรียงไว้ในถาด
  3. ชั่งแป้ง  ตวงผงฟูและเบกกิ้งโซดา  ร่อนรวมกัน 2 ครั้ง  ใส่ชามผสมใบกลาง
  4. ชั่งน้ำตาล  ใส่เกลือ  เทลงในของแห้ง  ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน  พักส่วนนี้ไว้
  5. ปอกกล้วยหอมแล้วหั่นเป็นชิ้นย่อม ๆ ใส่ชามผสมใบเล็ก
  6. เทโยเกิร์ตและนมสดลงไป  ใช้ที่บดกล้วยบดให้ละเอียดและเข้ากัน
  7. เติมกลิ่นกล้วยหอมหรือกลิ่นวานิลลาลงในส่วนผสมกล้วยบด  คนให้เข้ากัน  พักส่วนนี้ไว้
  8. ชั่งน้ำมันพืชให้ได้ตามสูตร  ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง  ใส่ชามผสมใบเล็ก
  9. คนด้วยส้อมหรือตะกร้อมือให้น้ำมันพืชและไข่เข้ากันดี
  10. เทส่วนของไข่และน้ำมันพืชลงในของแห้ง
  11. คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน  ไม่เห็นผงแป้งแล้วหยุดคนเลย  พยายามกวาดตะกร้อมือให้ถึงก้นชามผสม  ส่วนผสมจะข้นและหนืดมาก  ไม่ต้องตกใจ
  12. เทส่วนของกล้วยที่บดไว้ลงไป  โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง
  13. ใส่ครั้งแรกลงไปแล้วคนด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน  อาจจะยังไม่เข้ากันดี  ไม่เป็นไร
  14. ใส่กล้วยบดส่วนที่เหลือลงไป  คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี  ส่วนผสมจะเหลว  ไม่หนืด
  15. ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ให้เกือบเต็มถ้วย  เหลือพื้นที่ขอบถ้วยไว้ 2-3 มิลลิเมตร
  16. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส  ไฟบนและล่างไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน 10 นาที
  17. ครบ 10 นาทีแล้ว ลดอุณหภูมิของเตาอบลงเหลือ 180 องศาเซลเซียส  ยังคงไม่เปิดพัดลม  อบต่อจนเค้กสุก  เช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางเค้ก  ยกไม้จิ้มฟันแล้วไม่มีเศษเค้กแฉะ ๆ ติดขึ้นมา
  18. เค้กสุกแล้วนำออกจากเตา  พักไว้บนตะแกรง 5 นาที  แล้วหยิบออกจากถ้วยวางผึ่งบนตะแกรงจนเย็น

Baking Tips

  • แม่หลิ่มทำได้ 18 ถ้วย  ขึ้นกับขนาดถ้วยด้วยนะคะ  อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้
  • กล้วยหอมที่แม่หลิ่มใช้ไม่งอมมาก  แม่หลิ่มเลยใส่น้ำตาลทราย 190 กรัม  ถ้าได้กล้วยหอมงอม ๆ แบบเปลือกดำแล้วใส่ 180 กรัมก็น่าจะพอแล้ว  ไม่เช่นนั้นเค้กจะหวานไป
  • ขั้นตอนการบดกล้วยหากชอบแบบละเอียดเลยจะใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ปั่นให้ละเอียดเลยก็ได้ค่ะ
  • ขั้นตอนการนำขนมเข้าอบแล้วให้ได้หน้าปูดแบบนี้  ที่สำคัญคืออุณหภูมิในเตาอบต้องถึง 200-210 องศาเซลเซียส  แล้วจึงนำเค้กเข้าเตา  ดูเทอร์โมมิเตอร์ในเตาอบก่อนนำขนมเข้าค่ะ  ถึงแม้เราจะตั้งอุณหูมิ 200-210 องศาเซลเซียสก็จริง  แต่เตาอบเค้าจะตัดและอุณหูมิลดลงเป็นพัก ๆ  อาจจะลงมาถึง 180 องศาเซลเซียส  ถ้านำขนมเข้าตอนนั้นหน้าขนมจะปูดไม่เต็มที่ค่ะ
  • ลองสังเกตดูเมื่อหน้าขนมปูดจนสุดสักพักแล้วเค้าจะแตก  จะไม่เรียบเนียนนะคะ  แล้วถึงลดอุณหภูมิลงอบต่อจนเค้กสุก  แม่หลิ่มนำเค้กออกนาทีที่ 18-19 ค่ะ  ถ้าอบด้วยความร้อนเท่าเดิม  หน้าจะไหม้และสีเข้ม  เปลือกขนมอาจจะแข็งเกินไปค่ะ  ระยะเวลาในการสุกของเค้กขึ้นกับขนาดถ้วยด้วยนะคะ
  • ถ้าไม่มีโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่นมสดแทนในอัตราส่วนที่เท่ากันแล้วบีบมะนาวลงไป 1 เสี้ยว